รู้จัก เราชนะ โครงการเยียวยาแจก 3,500 บาท 2 เดือน เปิดลงทะเบียนปลาย ม.ค.นี้


 เมื่อวันที่ 13 ม.ค. จากสถานการณ์โควิด-19 กลับมาระบาดระลอกใหม่ ทำให้หลายภาคส่วนได้รับผลกระทบ ทำให้รัฐบาลเตรียมออกมาตรการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบ โดยเตรียมเสนอโครงการ เราชนะ เข้าครม.ให้พิจารณาในวันที่ 19 ม.ค.นี้ ซึ่งโครงการดังกล่าวจะแจกเงินเยียวยาให้คนละ 3,500 บาท เป็นเวลา 2 เดือน

สำหรับโครงการ เราชนะ ประชาชนที่ได้รับผลกระทบจะต้องมาลงทะเบียนผ่านแอพพลิเคชัน หรือเว็บไซต์ที่คลังเปิดไว้คือ www.เราชนะ.com กำหนดระยะเวลาลงทะเบียนเร็วที่สุดภายในสิ้นเดือนม.ค. และผู้ผ่านการตรวจสอบสิทธิ์จะสามารถกดเงินจากตู้เอทีเอ็มในเดือนแรกได้อย่างช้าสุดไม่เกินสัปดาห์แรกของเดือน ก.พ.2564 ครอบคลุม 2 เดือน


การคัดกรองผู้ที่ได้รับเงินบรรเทาทุกข์ 3,500 บาท นาน 2 เดือน จากมาตรการ เราชนะ แยกเป็น

กลุ่มที่จะได้รับเงินบรรเทาทุกข์ แบ่งเป็นกลุ่มที่ไม่ต้องลงทะเบียนใหม่ คือ

กลุ่มผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 14 ล้านคน ซึ่งมีฐานข้อมูลอยู่แล้ว

กลุ่มผู้เข้าร่วมมาตรการคนละครึ่ง ที่มีการยืนยันใช้สิทธิ์แล้วกว่า 13.8 ล้านราย หรือไม่เกิน 15 ล้านราย แต่ต้องมาพิจารณาคุณสมบัติว่าจะผ่านเกณฑ์ได้รับเงินบรรเทาทุกข์ด้วยหรือไม่อีกครั้ง

กลุ่มต้องลงทะเบียนใหม่ เป็นกลุ่มที่ไม่เคยอยู่ในฐานข้อมูลเดิมอยู่เลย

ส่วนกลุ่มที่จะได้รับเงินเยียวยาต้องเป็นกลุ่มอาชีพอิสระ เกษตรกร ที่เคยลงทะเบียนกับกรมส่งเสริมการเกษตร อาจจะต้องมาลงทะเบียนใหม่ และจะช่วยเหลือพร้อมกันในรอบเดียว ในหลักการก็จะช่วยกลุ่มที่ได้รับผลกระทบเหมือนมาตรการเราไม่ทิ้งกันก่อน เช่น กลุ่มแท็กซี่ มอเตอร์ไซค์รับจ้าง ผู้ค้าสลากกินแบ่งรัฐบาล และมัคคุเทศก์ เป็นต้น


นอกจากนี้มีกลุ่มไม่ได้รับเงินช่วยเหลือ เบื้องต้นจะเป็นกลุ่มที่ได้รับการดูแลอยู่แล้ว

กลุ่มข้าราชการกว่า 3 ล้านคน พนักงานและลูกจ้างรัฐวิสาหกิจ

กลุ่มที่อยู่ในฐานระบบกองทุนประกัน ตามมาตรา 33 อีก 11 ล้านคน

กลุ่มผู้ที่มีรายได้สูง ซึ่งคลังจะมีเกณฑ์มาวัดว่ารายได้เท่าใด จึงจะไม่ได้รับเงิน 3,500 บาท โดยพิจารณาบัญชีเงินฝาก รายได้เข้าออกเดือนต่อเดือน ฐานข้อมูลผู้เสียเงินภาษี เป็นต้น

สำหรับเว็บไซต์ www.เราชนะ.com คาดว่าจะเปิดให้ลงทะเบียนได้ภายในช่วงสิ้นเดือนม.ค.นี้ โดยจะแจกเงิน 2 เดือน คือก.พ.และมี.ค. ซึ่งรายละเอียดการลงทะเบียนจะไม่ยุ่งยาก เหมือนมาตรการเราไม่ทิ้งกัน ที่มีชุดคำถามเชิงลึก เพื่อพิจารณาว่าได้รับผลกระทบจริงหรือไม่

แสดงความคิดเห็น (0)
ใหม่กว่า เก่ากว่า

ข่าวแนะนำ