นายกฯ ไม่ขัด ท้องถิ่นจัดซื้อวัคซีนโควิดเอง ย้ำต้องผ่านมาตรฐาน อย. ปลื้มประชาชนให้ความร่วมมือจนยอดผู้ติดโควิดลดลง
วันที่ 13 ม.ค. 2564 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงความคืบหน้าของวัคซีนโควิด-19 ว่า ต้องใช้วิธีการที่เหมาะสมและมีกระบวนการ ซึ่งนายกฯ ต้องเป็นผู้อนุมัติเรื่องเหล่านี้ ไม่ว่าใครจะเสนออะไรมาก็ต้องอนุมัติโดยการนำเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี จะพูดก่อนไม่ได้ แต่ถ้าเข้ามาแล้วไม่ผ่าน หรือไม่มีงบประมาณ ก็ไม่ได้ ดังนั้น ต้องระมัดระวังที่สุดในการใช้จ่ายงบประมาณเวลานี้ เพราะเรายังเจอปัญหาอีกหลายด้าน ซึ่งงบประมาณมีอยู่เพียงพอในระยะนี้ไปก่อน ถ้าไม่พอก็ค่อยว่ากันใหม่
ส่วนกรณีที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) จะตั้งงบจัดซื้อวัคซีนมาฉีดให้ประชาชนเองนั้น พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ทำได้ ตนเปิดโอกาสให้สามารถนำเข้าวัคซีนมาได้ หากจะใช้เงินท้องถิ่นก็ถือเป็นสิทธิ เป็นเรื่องของสภาท้องถิ่นที่จะจัดซื้อที่ไหน อย่างไร วันนี้หลายคนตั้งความหวังกับวัคซีน จึงจำเป็นต้องจัดหาในหลายช่องทางและจากหลายประเทศ แต่สิ่งสำคัญที่สุดคือ ต้องผ่านมาตรฐานของสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) เนื่องจากมีผลข้างเคียง ซึ่งน่ายินดีที่วัคซีนที่สยามไบโอไซเอนซ์ผลิตอยู่ในเกณฑ์ที่ยอมรับได้ และเชื่อว่าวันหน้าจะมีผู้ผลิตวัคซีนมากขึ้น แต่ต้องดูว่าประเทศต้นทางรับรองมาตรฐานหรือไม่
นายกรัฐมนตรี กล่าวด้วยว่า วันนี้มียอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ประมาณ 100 กว่าคน ช่วงนี้ยอดจะขึ้นๆ ลงๆ สะท้อนให้เห็นถึงความร่วมมือของประชาชน การตรวจคัดกรอง โดยเฉพาะการลดการเดินทางที่ไม่จำเป็น ซึ่งทำให้การแพร่ระบาดคลี่คลายได้โดยเร็ว แต่สิ่งสำคัญคือ ทุกคนต้องร่วมมือกันปฏิบัติตามมาตรการของสาธารณสุข หากไม่ร่วมมือก็ไม่สามารถทำอะไรได้ เช่นเดียวกับกฎหมายที่ทุกคนต้องเคารพ เพราะหากไม่เคารพกฎหมาย ก็เป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดปัญหา เกิดความยุ่งยากมากขึ้นเรื่อยๆ ท้ายที่สุดก็มาโทษรัฐบาล ยืนยันว่า รัฐบาลปฏิบัติตามกฎหมายทุกฉบับ ไม่เลือกใช้บางฉบับ หรือเลือกเอากฎหมายรัฐธรรมนูญและกฎหมายลูกมาพูดสร้างความสับสน ขอให้คิดอยู่ในกรอบ รัฐบาลทำทุกอย่างเต็มที่อยู่แล้ว
